พลังเสียงและกลิ่น: สูตรลับกระตุ้นยอดขายและความจงรักภักดี

พลังเสียงและกลิ่น กระตุ้นยอดขาย สร้างแบรนด์

พลังเสียงและกลิ่น: เคล็ดลับการตลาดที่คุณอาจไม่เคยรู้

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในร้าน Don Don Donki เสียงเพลงจิงเกิลสดใส “ดอน ดอน ดอน ดอนกิ~” จะสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและน่าดึงดูดใจทันที เสียงเพลงนี้ไม่ได้เป็นแค่ส่วนเสริมเล็กๆ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ ซึ่งอิงจาก วิทยาศาสตร์ของเสียง เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าทั้งในแง่อารมณ์และพฤติกรรม

ในยุคที่ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) กลายเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ พลังเสียงและกลิ่น ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ เสียงเพลงที่เหมาะสมสามารถกระตุ้นความรู้สึกและพฤติกรรมของลูกค้าได้ทันที ขณะที่กลิ่นหอมเฉพาะตัวช่วยสร้างความทรงจำและบรรยากาศที่ดึงดูดใจ


เสียง: พลังที่เปลี่ยนการตัดสินใจของลูกค้า

เสียงเป็นประสาทสัมผัสที่ทรงพลังและส่งผลต่ออารมณ์ของลูกค้าได้ทันที จากการศึกษาของ North, Hargreaves, & McKendrick (1999) พบว่า ประเภทของเพลงที่เล่นในร้านสามารถมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า เช่น เพลงคลาสสิกในร้านขายไวน์ช่วยเพิ่มยอดขายไวน์ระดับพรีเมียม ในขณะที่เพลงป๊อปส่งผลให้ลูกค้าซื้อสินค้าในระดับกลางถึงต่ำมากกว่า

เสียง: พลังที่เปลี่ยนการตัดสินใจของลูกค้า

วิทยาศาสตร์ของเสียง

1.จังหวะเพลงและความเร็วในการตัดสินใจ

  • เพลงจังหวะเร็ว: งานวิจัยโดย Milliman (1982) ระบุว่าเพลงจังหวะเร็วช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าทำกิจกรรมได้เร็วขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับร้านค้าปลีกที่ต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้าในพื้นที่
  • เพลงจังหวะช้า: เพลงที่ช้าส่งผลให้ลูกค้าผ่อนคลาย ใช้เวลานานขึ้น และมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในร้านอาหาร

2.เสียงความถี่ต่ำกับความอยากอาหาร

งานวิจัยของ Spence et al. (2019) ชี้ให้เห็นว่าเสียงเบสที่หนักแน่นสามารถกระตุ้นความอยากอาหาร ขณะที่เสียงดนตรีความถี่สูงสามารถส่งผลต่อการรับรู้รสชาติ เช่น ทำให้รสชาติหวานโดดเด่นขึ้น

3.การสร้างอารมณ์และเอกลักษณ์ของแบรนด์

  • Starbucks ใช้เพลงแจ๊ซและบอสซาโนวาเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นและดึงดูดลูกค้า
  • Uniqlo ใช้เพลงบรรเลงเรียบง่ายที่สะท้อนความมินิมอลของแบรนด์
  • Watsons: ใช้เพลงจังหวะสนุกสนานเพื่อสร้างพลังงานและกระตุ้นการซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว
  • Crystal Jade Restaurant: ใช้เพลงจีนแบบดั้งเดิมเพื่อเสริมบรรยากาศร้านอาหารจีนแท้
  • ร้านอาหารหรู: เลือกเพลงแจ๊ซหรือบรรเลงคลาสสิกเพื่อเพิ่มความหรูหราและความพิเศษให้กับมื้ออาหาร

กลิ่น: เสน่ห์ที่ดึงดูดใจลูกค้า

จากการศึกษาของ Chebat & Michon (2003) พบว่ากลิ่นหอมในร้านค้าส่งผลต่อความรู้สึกที่ดีของลูกค้าและกระตุ้นให้พวกเขาใช้จ่ายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น กลิ่นอบอุ่นในร้านเบเกอรี หรือกลิ่นสดชื่นในร้านค้าปลีก

ตัวอย่างการใช้กลิ่นในธุรกิจ

1.สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยกลิ่น

  • Starbucks: กลิ่นกาแฟสดช่วยกระตุ้นอารมณ์และสร้างความจดจำ
  • โรงแรมหรู: ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์หรือวานิลลาเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

2.กระตุ้นพฤติกรรมการซื้อ

  • กลิ่นขนมปังอบใหม่ในซูเปอร์มาร์เก็ตทำให้ลูกค้ารู้สึกหิวและมีแนวโน้มซื้อสินค้าเพิ่ม
  • กลิ่นซิตรัสในร้านค้าปลีกช่วยเพิ่มพลังงานและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

3.เชื่อมโยงกลิ่นกับความทรงจำและอารมณ์

งานวิจัยของ Herz (2016) ระบุว่ากลิ่นมีผลโดยตรงต่อระบบประสาทส่วนลิมบิก ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและอารมณ์ กลิ่นหอมเฉพาะสามารถช่วยสร้างความประทับใจที่ลูกค้าจำได้

กรณีศึกษา: Singapore Airlines

สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ใช้น้ำหอม Stefan Floridian Waters เป็นเอกลักษณ์ประจำสายการบิน โดย:

  1. ฉีดน้ำหอมในผ้าเช็ดหน้าร้อนที่แจกผู้โดยสาร
  2. พนักงานต้อนรับใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกัน
  3. ใช้กลิ่นเดียวกันในเลาจน์ทุกแห่งทั่วโลก

ผลลัพธ์คือ ผู้โดยสารจะนึกถึงประสบการณ์การบินที่ดีทุกครั้งที่ได้กลิ่นนี้

กรณีศึกษา: Bread Talk

เบรดทอล์คใช้กลิ่นขนมอบเป็นกลยุทธ์การตลาด โดย:

  1. จัดวางเตาอบให้กลิ่นขนมลอยออกมานอกร้าน
  2. จัดเรียงสินค้าให้กลิ่นหอมกระจายทั่วร้าน
  3. อบขนมสดใหม่ตลอดวันเพื่อรักษากลิ่นหอม

พลังเสียงและกลิ่น ในช่วงเทศกาล: เพิ่มพลังให้บรรยากาศร้านค้า

ในช่วงเทศกาล เช่น คริสต์มาส ร้านค้าหลายแห่งใช้เสียงและกลิ่นเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษ ตัวอย่างเช่น:

  • Starbucks: เพลงคริสต์มาสคลาสสิกคู่กับกลิ่นมินต์หรือช็อกโกแลตจากเมนูพิเศษประจำเทศกาล
  • IKEA: ผสมผสานเพลงคริสต์มาสกับกลิ่นไม้สน เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าตกแต่งบ้าน
  • ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล: เพลงคริสต์มาสในห้างร่วมกับการตกแต่งไฟและกลิ่นหอมเฉพาะตัว

การผสมผสานเสียงและกลิ่น: สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

เสียงและกลิ่นสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเสริมพลังกัน ตัวอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่:

  • Don Don Donki: จิงเกิลสนุกสนานและกลิ่นสดชื่นช่วยสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นการช้อปปิ้ง
  • ร้านอาหารญี่ปุ่น: เพลงพื้นเมืองญี่ปุ่นกับกลิ่นโชยุหรือดาชิที่อบอวลในร้าน

การประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณ

การนำการตลาดเชิงประสาทสัมผัสมาใช้ต้องคำนึงถึง:

  1. ความสอดคล้องกับแบรนด์ ตัวอย่าง: ร้านสปาหรูไม่ควรเปิดเพลงเกาหลีสดใส แต่ควรเลือกดนตรีบรรเลงที่ผ่อนคลาย
  2. กลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่าง: ร้านเสื้อผ้าวัยรุ่นอาจใช้เพลงป๊อปฮิต แต่ร้านเครื่องประดับหรูควรใช้เพลงคลาสสิก
  3. ช่วงเวลาและสถานการณ์ ตัวอย่าง: ห้างสรรพสินค้าควรปรับเพลงและกลิ่นตามเทศกาล เช่น คริสต์มาส ตรุษจีน

การผสมผสานเสียงและกลิ่น: สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ


ทำไมธุรกิจของคุณจึงต้องการที่ปรึกษาด้านการตลาดเชิงประสาทสัมผัส

การสร้างประสบการณ์เชิงประสาทสัมผัสที่ทรงพลังไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลายด้าน ทั้งจิตวิทยาผู้บริโภค ประสาทวิทยาศาสตร์ และศิลปะการออกแบบประสบการณ์ Gnosis ขอแนะนำ USEA ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันค้าปลีกระดับโลก เขาไม่เพียงเข้าใจทฤษฎี แต่มีประสบการณ์จริงในการสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย ดังต่อไปนี้

USEA, its clients' logo

การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นศาสตร์ที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้

USEA ได้ให้บริการและติดตั้งเสียงในร้านค้ากว่า 750,000 ร้านทั่วโลก มี 5,000 แบรนด์นำไปใช้ และมีทีมสร้างสรรผลงานเพลงเฉพาะแบรนด์กว่า 100 คน

จีโนซิส เชื่อว่าแบรนด์ไทยมีศักยภาพที่จะสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก เฉกเช่นเดียวกับ Don Don Donki หรือ Uniqlo ที่ใช้ พลังเสียงและกลิ่น ในการสร้างความประทับใจที่ไม่รู้ลืม

ด้วยความร่วมมือกับ USEA ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการสร้างประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัส เราพร้อมช่วยคุณ:

  • สร้างจิงเกิ้ลที่จะกลายเป็นตำนานของวงการ
  • ออกแบบบรรยากาศในร้านที่จะตราตรึงใจลูกค้า
  • สร้างเอกลักษณ์ที่ลูกค้าจะจดจำได้ทันทีที่ได้สัมผัส

อย่าปล่อยให้โอกาสในการสร้างความแตกต่างหลุดลอยไป ติดต่อจีโนซิสวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแบรนด์ของคุณ

พร้อมแล้วที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้วงการ? ติดต่อเราที่ email: Contat@Gnosisadvisory.com

“เพราะทุกแบรนด์มีเรื่องราวที่น่าจดจำ เราพร้อมช่วยคุณเล่าเรื่องราวนั้นผ่านประสบการณ์ที่ลูกค้าจะประทับใจไม่รู้ลืม”

2025 Taipei International Chain and Franchise Spring Exhibition Taiwan Franchise show

งานแฟรนไชส์ไต้หวัน

2025 Taipei International Chain and Franchise Spring Exhibition งานแฟรนไชส์ไต้หวัน กรุงไทเป ในปี 2025 ได้แก่ ครั้งที่ี 1 (Spring) วันที่ 14-17 ก.พ. 2568 ครั้งที่ 2 (Summer) วันที่ 20-23 มิ.ย. 2568 และครั้งที่ 3 (Autumn) วันที่ 19-22 ก.ย. 2568 โอกาสขยายธุรกิจไทยและหาคู่ค้าในไต้หวัน การออกงานนี้คือทางลัดและทางสะดวก จัดงานโดยสมาคมแฟรนไชส์ไต้หวัน สนใจจองบูธกับ จีโนซิส โทร.0969796451

อ่านต่อ »
Gnosis ร่วมกับ ถังดอกบัว มอบเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

Gnosis ร่วมกับ ถังดอกบัว มอบเรือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก.ย.2567

จากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือของไทย บริษัท จีโนซิส จำกัด ร่วมกับ ถังดอกบัว บริจาคเรือพลาสติก 2 ลำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเชียงใหม่ ย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืน (SDG) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน

อ่านต่อ »
ยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ GSB Franchise Standard 2024 กับธนาคารออมสิน และ จีโนซิส

GSB Franchise Standard 2024 เข้มข้นกว่าเดิม

หลักสูตรยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ที่สร้างผู้ประกอบการแฟรนไชส์มาตรฐานแล้ว 111 กิจการใน 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ธนาคารออมสินจัดเต็มอีกครั้งกับเนื้อหาเข้มข้นกว่าเดิม ใกล้ชิดกว่าเดิม กับวิทยากรจากสายงานแฟรนไชส์ระดับประเทศ รีบสมัครด่วน

อ่านต่อ »
จีโนซิส ที่ปรึกษาธุรกิจ บริหารการเงิน , ที่ปรึกษาแฟรนไซส์, ประเมินมูลค่าทางธุรกิจ, ออกแบบระบบแฟรนไซส์ ครบทุกเรื่องทางธุรกิจ วางใจ gnosis