ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และรอยัลตี้ สำหรับธุรกิจอาหาร เท่าไรยอมจ่าย

ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ค่ารอยัลตี้ สำหรับธุรกิจอาหาร เท่าไรยอมจ่าย

บทนำ: ความสำคัญของ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และค่ารอยัลตี้

ในฐานะที่ปรึกษาด้านแฟรนไชส์ เรามักได้รับคำถามสำคัญจากเจ้าของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการขยายระบบแฟรนไชส์ว่า “ควรกำหนด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และค่ารอยัลตี้เท่าไรจึงจะเหมาะสม?” คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่ตายตัว แต่ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นทุนของแฟรนไชส์ซอร์ ความสามารถในการทำกำไรของแฟรนไชส์ซี และมูลค่าที่แบรนด์มอบให้

ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และค่ารอยัลตี้ เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยรักษามาตรฐานของระบบแฟรนไชส์และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี

หลักเกณฑ์การกำหนด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และค่ารอยัลตี้

1.ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) คือเงินที่แฟรนไชส์ซีจ่ายครั้งเดียวเมื่อตกลงร่วมระบบ โดยค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมต้นทุนที่แฟรนไชส์ซอร์ใช้ในการพัฒนาและสนับสนุน เช่น การจัดทำคู่มือ SOP การฝึกอบรมพนักงาน การออกแบบและตกแต่งร้าน การสนับสนุนการเปิดร้าน และการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เมื่อธุรกิจมีการขยายตัวเช่น ครัวกลาง ศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์พัฒนาสินค้าและบริการ เป็นต้น

ปัจจัยที่ใช้กำหนด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

  1. ต้นทุนในการพัฒนาแฟรนไชส์ซอร์: รวมถึงการสร้างแบรนด์ การจัดทำ SOP คู่มือแฟรนไชส์ และการจัดตั้งทีมสนับสนุน
  2. ต้นทุนในการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีเริ่มต้น: เช่น การฝึกอบรม การช่วยเปิดร้าน และการวางระบบการทำงาน
  3. มูลค่าของแบรนด์: ธุรกิจที่มีชื่อเสียงมาก ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จะสูงกว่า เพราะแบรนด์ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ทันที
  4. ความสามารถในการจ่ายของกลุ่มเป้าหมาย: ควรพิจารณากลุ่มเป้าหมายของผู้ลงทุน หากเป็นกลุ่มขนาดเล็ก การตั้งค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปอาจทำให้ไม่สามารถดึงดูดผู้ลงทุนได้

การกำหนด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) ควรสะท้อนถึงความคุ้มค่าในการลงทุนของแฟรนไชส์ซี และต้นทุนที่แฟรนไชส์ซอร์ต้องแบกรับเพื่อสนับสนุนแฟรนไชส์ซี การเลือกใช้ “การพัฒนาระบบ” หรือ “เงินลงทุนในการเปิดร้าน” เป็นฐานในการกำหนดค่าธรรมเนียม ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและเป้าหมายในการขยายแฟรนไชส์

1.1 การพัฒนาระบบ: ใช้กำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่เน้นการสร้างคุณค่าในระบบและแบรนด์ เช่น

  • ธุรกิจที่มีระบบปฏิบัติการที่ซับซ้อน (เช่น SOP, POS, การฝึกอบรมละเอียด)
  • ธุรกิจที่มีการลงทุนสูงในการพัฒนาแบรนด์ เช่น การออกแบบร้าน ระบบการตรวจสอบ หรือการพัฒนาสินค้าใหม่

ข้อพิจารณา : แฟรนไชส์ซีอาจมองค่าธรรมเนียมสูงหากไม่เข้าใจว่า “ระบบ” เป็นการลงทุนที่ช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงระยะยาว

1.2 เงินลงทุนในการเปิดร้าน: ใช้กำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่เน้นการเริ่มต้นง่ายและต้นทุนคงที่ เช่น ร้านขนาดเล็ก เช่น คีออสขายเครื่องดื่ม ร้านอาหารจานด่วน หรือธุรกิจที่ต้นทุนเปิดร้านชัดเจนและไม่ซับซ้อน

ข้อดี: 1.สะท้อนต้นทุนของแฟรนไชส์ซี: การตั้งค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทำให้แฟรนไชส์ซีมองเห็นภาพรวมชัดเจน 2.เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้นทุนระบบต่ำ: เช่น ร้านที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีหรือการฝึกอบรมที่ซับซ้อน

ข้อควรพิจารณา: หากธุรกิจต้องการขยายไปในรูปแบบที่พึ่งพาระบบ คุณค่าในการลงทุนระบบอาจไม่ได้สะท้อนในค่าธรรมเนียม

2. ค่ารอยัลตี้ (Royalty Fee) คือค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปีที่คิดจากเปอร์เซ็นต์ของยอดขายหรือเป็นค่าธรรมเนียมคงที่ โดยเงินจำนวนนี้ใช้เพื่อ การตรวจสอบคุณภาพสินค้าและบริการ การสนับสนุนด้านการตลาดส่วนกลาง การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

ปัจจัยที่ใช้กำหนดค่ารอยัลตี้

  1. ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนต่อเนื่อง: เช่น การตรวจสอบมาตรฐาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการตลาดส่วนกลาง
  2. กำไรเฉลี่ยของแฟรนไชส์ซี: ค่ารอยัลตี้ไม่ควรสูงจนกระทบกับกำไรสุทธิของแฟรนไชส์ซี (แนะนำไม่เกิน 4%-6% ของยอดขาย ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม)
  3. ประเภทของธุรกิจ:
    • ธุรกิจที่ใช้แรงงานเยอะและต้นทุนสูง เช่น ร้านอาหาร อาจเก็บค่ารอยัลตี้ต่ำกว่า
    • ธุรกิจที่ใช้ระบบอัตโนมัติ เช่น ร้านเครื่องดื่มแบบ Grab & Go อาจเก็บค่ารอยัลตี้สูงกว่า

เคล็ดลับในการตั้งค่าธรรมเนียมและค่ารอยัลตี้

  1. ตั้งค่าธรรมเนียมที่ดึงดูดผู้ลงทุน: ค่าธรรมเนียมควรสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับมูลค่าแบรนด์และการสนับสนุนที่แฟรนไชส์ซอร์มอบให้
  2. โปร่งใสในการใช้ค่าธรรมเนียม: ชี้แจงว่าเงินที่เก็บไปใช้พัฒนาอะไรบ้าง เช่น การตลาด การสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
  3. กำหนดค่ารอยัลตี้ที่ไม่กระทบต่อกำไรแฟรนไชส์ซี: ค่ารอยัลตี้ที่เหมาะสมช่วยสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี
  4. เปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน: ศึกษาโครงสร้างค่าธรรมเนียมของแฟรนไชส์ในตลาดเพื่อให้แข่งขันได้

การคำนวณค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์โดยพิจารณาอัตราผลตอบแทน (ROI) และระยะเวลาคืนทุน

การกำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) และค่ารอยัลตี้ (Royalty Fee) โดยอ้างอิงอัตราผลตอบแทนการลงทุน (ROI) และระยะเวลาคืนทุนช่วยให้ทั้งแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีเห็นความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในการลงทุน

หลักการพิจารณา

1. อัตราผลตอบแทนการลงทุน (ROI):

  • คำนวณ Return On Investment โดยใช้สูตร: ROI = (กำไรสุทธิต่อปี หารด้วย เงินลงทุนทั้งหมด) x 100
  • อัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: 20%-50% ต่อปี

2. ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period):

  • คำนวณระยะเวลาคืนทุนโดยใช้สูตร: ระยะเวลาคืนทุน (ปี) = เงินลงทุนทั้งหมด หารด้วย กำไรสุทธิต่อปี
  • ระยะเวลาคืนทุนที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: 1-3 ปี

3. การกำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้:

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ควรเป็น 5%-10% ของเงินลงทุนทั้งหมด เพื่อไม่กระทบระยะเวลาคืนทุน
  • ค่ารอยัลตี้ควรอยู่ในช่วง 3%-6% ของยอดขายต่อเดือน

ขั้นตอนการกำหนด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้

เริ่มต้นด้วยการคำนวณต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี เช่น การพัฒนาระบบและโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) การสร้างสื่อการตลาด และ การบริหารจัดการซัพพลายเชน

ตัวอย่าง: หากการพัฒนาระบบและสนับสนุนสาขาใหม่ใช้ต้นทุนรวม 500,000 บาท ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ควรตั้งไว้ที่ 5%-10% ของเงินลงทุน = 25,000-50,000 บาท

เพื่อให้แฟรนไชส์ซีมีกำลังใจดำเนินธุรกิจ ค่ารอยัลตี้ ควรตั้งอยู่ในอัตราที่สมเหตุสมผล เช่น 3%-6% ของยอดขาย

ตัวอย่าง: ร้านอาหารที่มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 1,000,000 บาท กำไรสุทธิ 15%-20% ค่ารอยัลตี้ = 1,000,000 × 5% = 50,000 บาท/เดือน

แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงกว่าแบรนด์ใหม่ เนื่องจากมอบคุณค่าให้แฟรนไชส์ซีตั้งแต่วันแรก

คำแนะนำจาก Gnosis :

  • หากแบรนด์คุณเพิ่งเข้าสู่ตลาด ควรตั้งค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ในอัตราที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อดึงดูดผู้ลงทุน
  • หากแบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ ค่าธรรมเนียมควรสะท้อนความน่าเชื่อถือของแบรนด์

ตัวอย่างการกำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้สำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

คีออสเครื่องดื่มขนาดเล็ก ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (บาท) เท่ากับ 100,000 – 150,000 ค่ารอยัลตี้ (% ของยอดขาย) เท่ากับ 3% – 5%

ร้านอาหาร Casual Dining ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (บาท) เท่ากับ 500,000 – 1,000,000 ค่ารอยัลตี้ (% ของยอดขาย) เท่ากับ 4%-6%

เหตุผลที่ไม่สามารถเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้

ในบางกรณี แฟรนไชส์ซอร์อาจพบว่าการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ชื่อเสียงของแบรนด์ไม่แข็งแกร่งพอ หรือระบบการทำงานยังไม่มั่นคง ต่อไปนี้คือเหตุผลที่พบบ่อยและแนวทางในการแก้ไข

1. แบรนด์ยังไม่มีชื่อเสียงเพียงพอ

ปัญหา: แฟรนไชส์ซีอาจลังเลที่จะลงทุนในแบรนด์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาด เพราะมองว่าไม่มีความได้เปรียบทางธุรกิจ

ข้อแนะนำ:

  • ลงทุนในแคมเปญการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์
  • จัดทำร้านต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเพื่อใช้เป็นกรณีตัวอย่าง
  • เสนอค่าธรรมเนียมในอัตราต่ำในช่วงเริ่มต้น เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนรายแรก

2. ระบบยังไม่สมบูรณ์หรือซับซ้อนเกินไป

ปัญหา: ระบบการทำงานไม่มีมาตรฐานชัดเจน (SOP) หรือกระบวนการซับซ้อนเกินไปจนทำให้แฟรนไชส์ซีรู้สึกว่าต้องเรียนรู้มากเกินไป

ข้อแนะนำ:

  • สร้างระบบที่ทำซ้ำได้ง่าย เช่น คู่มือการทำงานที่เข้าใจได้ทันที
  • ทดสอบระบบกับร้านต้นแบบเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริง
  • จัดอบรมและสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างใกล้ชิดในช่วงแรก

3. ค่าธรรมเนียมสูงเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าที่ได้รับ

ปัญหา: แฟรนไชส์ซีมองว่าค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาจะได้รับจากแฟรนไชส์ซอร์

ข้อแนะนำ:

  • ชี้แจงรายละเอียดการใช้ค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใส เช่น การสนับสนุนการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการช่วยเลือกทำเล
  • ใช้ตัวเลข ROI และระยะเวลาคืนทุน เพื่อแสดงความคุ้มค่าของการลงทุน
  • เสนอสิ่งจูงใจ เช่น ลดค่าธรรมเนียมในปีแรก หรือมอบเครื่องมือเริ่มต้นฟรี

4. การแข่งขันในตลาดสูง

ปัญหา: ในอุตสาหกรรมที่มีผู้เล่นจำนวนมาก เช่น ร้านกาแฟหรือร้านอาหาร การแข่งขันอาจทำให้ผู้ลงทุนเลือกแบรนด์อื่นที่ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า

ข้อแนะนำ:

  • สร้างจุดขายที่แตกต่าง เช่น เมนูเฉพาะหรือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
  • ชูจุดเด่นของระบบ เช่น การสนับสนุนที่เข้มแข็ง หรือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
  • เปรียบเทียบข้อได้เปรียบของแบรนด์กับคู่แข่งในตลาด

5. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแฟรนไชส์

ปัญหา: ผู้ลงทุนบางรายอาจมองว่าแฟรนไชส์เป็นเพียงการซื้อแบรนด์ โดยไม่เห็นคุณค่าของระบบและการสนับสนุนที่มาพร้อมกับการจ่ายค่าธรรมเนียม

ข้อแนะนำ:

  • สร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ที่ได้รับ เช่น การลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจ และระบบที่พิสูจน์แล้ว
  • จัดสัมมนาแนะนำแฟรนไชส์ซีรุ่นใหม่ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจถึงโอกาสและความคุ้มค่าของการลงทุน
  • ใช้กรณีศึกษาจากสาขาที่ประสบความสำเร็จ เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้

การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ระบบแฟรนไชส์ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน แฟรนไชส์ซอร์ควรสร้างความเชื่อมั่นให้แฟรนไชส์ซีโดยการแสดงคุณค่าที่พวกเขาจะได้รับ และออกแบบค่าธรรมเนียมให้สมเหตุสมผลและโปร่งใส

บทสรุป

การกำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่ารอยัลตี้ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่คือการสร้างความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี การคิดอย่างรอบคอบและการสร้างความเชื่อมั่นคือกุญแจสู่ความสำเร็จของระบบแฟรนไชส์

#แฟรนไชส์อาหาร #ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ #ค่ารอยัลตี้ #ธุรกิจอาหาร #เคล็ดลับแฟรนไชส์ #สร้างแฟรนไชส์

อ่านบทความเกี่ยวกับแฟรนไชส์อีกมากมายในเวปนีี้ คลิกเลย

หรือดูวิดีโอความรู้แฟรนไชส์กับ Youtube ของบริษัท

2025 Taipei International Chain and Franchise Spring Exhibition Taiwan Franchise show

งานแฟรนไชส์ไต้หวัน

2025 Taipei International Chain and Franchise Spring Exhibition งานแฟรนไชส์ไต้หวัน กรุงไทเป ในปี 2025 ได้แก่ ครั้งที่ี 1 (Spring) วันที่ 14-17 ก.พ. 2568 ครั้งที่ 2 (Summer) วันที่ 20-23 มิ.ย. 2568 และครั้งที่ 3 (Autumn) วันที่ 19-22 ก.ย. 2568 โอกาสขยายธุรกิจไทยและหาคู่ค้าในไต้หวัน การออกงานนี้คือทางลัดและทางสะดวก จัดงานโดยสมาคมแฟรนไชส์ไต้หวัน สนใจจองบูธกับ จีโนซิส โทร.0969796451

อ่านต่อ »
Gnosis ร่วมกับ ถังดอกบัว มอบเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

Gnosis ร่วมกับ ถังดอกบัว มอบเรือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก.ย.2567

จากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือของไทย บริษัท จีโนซิส จำกัด ร่วมกับ ถังดอกบัว บริจาคเรือพลาสติก 2 ลำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเชียงใหม่ ย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืน (SDG) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน

อ่านต่อ »
ยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ GSB Franchise Standard 2024 กับธนาคารออมสิน และ จีโนซิส

GSB Franchise Standard 2024 เข้มข้นกว่าเดิม

หลักสูตรยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ที่สร้างผู้ประกอบการแฟรนไชส์มาตรฐานแล้ว 111 กิจการใน 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ธนาคารออมสินจัดเต็มอีกครั้งกับเนื้อหาเข้มข้นกว่าเดิม ใกล้ชิดกว่าเดิม กับวิทยากรจากสายงานแฟรนไชส์ระดับประเทศ รีบสมัครด่วน

อ่านต่อ »
จีโนซิส ที่ปรึกษาธุรกิจ บริหารการเงิน , ที่ปรึกษาแฟรนไซส์, ประเมินมูลค่าทางธุรกิจ, ออกแบบระบบแฟรนไซส์ ครบทุกเรื่องทางธุรกิจ วางใจ gnosis